สล็อตโจ๊กเกอร์คลับ ผู้ชื่นชอบคาสิโนออนไลน์ ชอบในพนันออนไลน์

กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด เตรียมนัดคุยกับ 2 สโมสรคือ เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ถึงทางออกในการแก้ปัญหาโควตาฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

ก่อนหน้านี้ บริษัท ไทยลีก ได้ทำการปรับโควตาทีมที่จะได้เล่นฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก จากเดิมฤดูกาล 2021/22 ที่เพิ่งจบลงไป จากโควตา 2+2 ปรับลดลงมาเหลือ 1+1 เพื่อแบ่งโควตาอีก 1+1 ไปใช้สำหรับการแข่งขันไทยลีก ฤดูกาล 2022/23 ทำให้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่จบอันดับ 3 และ เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งจบอันดับ 4 และได้โควตาไปเล่นรอบเพลย์ออฟ ต้องถูกตัดสิทธิ์ จนทั้ง 2 ทีมต้องยื่นหนังสือคัดค้านไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา



ล่าสุด "บิ๊กแชมป์" กรวีร์ ปริศนานันทกุล ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในประเด็นนี้ว่า "หนังสือที่ทั้ง 2 สโมสรยื่นเข้ามา ไม่มีการระบุแนวทางมาว่าต้องการให้ ไทยลีก หาทางออกแบบไหน จึงต้องมีการนัดพูดคุยกับทั้ง 2 ทีมอีกครั้ง หากต้องการให้ยึดโควตาเดิมคือ 2+2 ก็ต้องไปถามทั้ง 16 ทีมในไทยลีกปีหน้าว่าเห็นด้วยไหม เพราะจะต้องมีทีมที่เสียประโยชน์จากการแย่งโควตาอย่าง เชียงราย , การท่าเรือ , ชลบุรี โดยยืนยันว่าที่ผ่านมา ไทยลีก เข้าใจทุกทีม และพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดแล้ว แต่หากไม่เห็นด้วย ก็อยากให้ช่วยเสนอมาว่าจะให้ทำยังไง"

ด้าน ขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เสียประโยชน์จากการถูกตัดสิทธิ์ ออกมายืนยันว่า หากไทยลีกยังคงเพิกเฉย และยึดมติเดิมคือ 1+1 ไม่มีการเปลี่ยนแปลง สโมสรจะมอบหมายให้กับทนายไปฟ้องร้องกับการกีฬาแห่งประเทศไทย และศาลสถิตยุติธรรม เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะทีมมีการลงทุนไปอย่างมากมาย และสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ได้รับผลกระทบไปหมดทั้ง งบประมาณประจำปี , สปอนเซอร์ผู้สนับสนุน รวมถึงเรื่องของสัญญาของนักเตะ และเงินโบนัสๆ ที่ได้มีการตกลงกันไว้ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง และเป็นกรณีศึกษาของฟุตบอลลีกไทยในอนาคตข้างหน้า