ให้คะแนนกระทู้:
  • 0 โหวต - 0 เฉลี่ย
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
คาร์วัลโญ่ ขโมยซีนฉลองวันเกิด , อิซัก เปิดตัวสุดฮือฮา! 5 ข้อ ลิเวอร์พูล แซงชนะ นิวคาส
#1
เป็นอีกเกมที่ นิวคาสเซิ่ล ต้องกินน้ำใต้ศอก ลิเวอร์พูล ตามเคยทั้งๆที่บุกมาเล่นกันได้ไม่เลวในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม แอนฟิลด์ เมื่อวันพุธที่ 31 ส.ค.แต่ลงเอยแล้วพวกเขาต้องพ่ายให้กับทีมเจ้าบ้านด้วยสกอร์ 2-1 ในช่วงทดเวลาแม้จะยิงประตูนำหน้าได้ก่อน

[Image: %E0%B8%95%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%84%E0%...%B8%84.jpg]

พร้อมกันนี้ สาลิกาดง ยังแพ้เป็นเกมแรกใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ด้วย ขณะที่ หงส์แดง เอาตัวรอดพลิกกลับมาชนะได้อย่างเหลือเชื่อทั้งๆที่โชว์ฟอร์มกันได้ไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร

1.หงส์ชุดเดิม แต่ผลงานไม่เหมือนเดิม

[Image: gettyimages-1419688885-594x594-1.jpg]

จากฟอร์มสุดโหดเปิดบ้านยำใหญ่ บอร์นมัธ 9-0 จึงเป็นเรื่องเข้าใจได้ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะเลือกวางใจในขุมกำลัง 11 ตัวแรกชุดเดิมลงบู๊นัดต้อนรับการมาเยือนของ นิวคาสเซิ่ล

ประกอบกับสตาร์ตัวหลักยังไม่หายเจ็บ เร้ด แมชีน จึงไม่คิดปรับทัพด้วยมั่นใจว่าทีมชุดเดิมจะสานผลงานที่ยอดเยี่ยมต่อได้อีกเกม

อย่างไรก็ดี สิ่งที่กุนซือชาวเมืองเบียร์อาจมองข้ามไปคือมันเป็นการลงเล่นสองนัดติดในรอบสัปดาห์ การใช้งานทีมชุดเดิมจึงส่งผลให้ เครื่องจักรสีแดง ประสบกับปัญหาเร่งไม่ขึ้นอย่างที่เห็น

อีกทั้งอย่าลืมว่าซีซั่นก่อนพวกเขามีลุ้นคว้าแชมป์ครบทั้งสี่รายการ นักเตะหลายรายจึงออกอาการอ่อนล้าดังจะเห็นว่าในเกมแดงเดือด ลิเวอร์พูล วิ่งน้อยกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ซะอีกจากสถิติที่มีการเผยออกมาหลังเกม

ด้วยเหตุนี้ เกมใน 45 นาทีแรกกับ สาลิกาดง ทีมเจ้าบ้านจึงเล่นได้อย่างน่าผิดหวัง และมีจังหวะยิงประตูจุ๋มจิ๋มชนิดที่แทบไม่เคยปรากฏมาก่อนกับสโมสรนี้แค่ห้าครั้งเท่านั้น และไม่ตรงกรอบเลยสักครั้ง แถมเป็นอีกเกมที่พวกเขาโดนยิงนำก่อนด้วยแม้จะหยุดสถิติย่ำแย่นี้ได้แล้วในนัดฉะกับ เดอะ เชอร์รีส์

2.ซาลาห์ ฟอร์มตก?

[Image: GettyImages-1419669183-1024x642.jpg]

กลายเป็นว่าหลังได้รับการต่อสัญญาใหม่กับ ลิเวอร์พูล โม ซาลาห์ กลับมีฟอร์มในซีซั่นนี้ที่ตกลงไปอย่างน่าใจหาย

แม้จะไม่มี ซาดิโอ มาเน่ ที่ถูกเมาท์ว่าเป็นเหมือนคู่แข่งในการสอยตาข่ายอยู่ข้างกายอีกแล้ว แต่ปรากฏว่า คิง ออฟ อียิปต์ ไม่ใช่ตัวทีเด็ดของทีมอีกต่อไปในซีซั่นนี้ และยิ่งเทียบกับ หลุยส์ ดิอาซ ก็ดูเหมือนปีกทีมชาติ โคลอมเบีย จะเป็นที่พึ่งของทีมในระยะนี้ได้มากกว่าด้วยซ้ำโดยเฉพาะในเรื่องการทำประตูซึ่งศูนย์หน้าไอย์คุปต์โดน เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ คู่แข่งคนสำคัญจากทีม แมนฯ ซิตี้ สปีดหนีไปไกลแล้ว

เท่านั้นไม่พอ อย่างเกมก่อนหน้านี้กับ บอร์นมัธ ซาลาห์ ไม่มีชื่อติดสกอร์บอร์ดอย่างน่าตกใจ มันจึงตอกย้ำว่าซีซั่นนี้เขาขาดความเด็ดขาดในการส่งบอลเข้าประตูไปซะแล้ว

อย่างไรก็ดี ในที่สุด บังโม ก็ทำประโยชน์ให้ทีมได้เมื่อผ่านบอลให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่นัดก่อนมีผลงานโดดเด่นเกินใครเช็คบิลตีเสมอได้ในนาทีที่ 61

3.คาร์วัลโญ่ ที่พึ่งคนใหม่

[Image: GettyImages-1419697192-1024x686.jpg]

มองคนไม่ผิดเลยจริงๆสำหรับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ตัดสินใจดึง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ มาเสริมทัพ และถึงขณะนี้แม้จะยังต้องรอโอกาสไปก่อน แต่แทบทุกเกมที่ถูกส่งลงสนาม ดาวเตะ โปรตุกีส โชว์ฟอร์มได้อย่างถูกอกถูกใจสาวก หงส์แดง เสมอ

และโดยเฉพาะเกมล่าสุดที่ลุกจากม้านั่งสำรองลงมาพังประตูชัยให้ทีมได้ในช่วงทดเวลา อดีตขุนพลทีม ฟูแล่ม จึงมอบของขวัญชิ้นพิเศษให้กับตัวเอง และต้นสังกัดควบคู่ไปด้วยเนื่องจากเจ้าตัวมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์พอดีเมื่อวันก่อน

พร้อมกันนี้ คาร์วัลโญ่ ยังเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ซัดประตูชัยในช่วงทดเวลาเกม พรีเมียร์ลีก ให้กับ ลิเวอร์พูล ด้วยเช่นกัน ทำลายสถิติเดิมของ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (20ปี3วัน) ในเกมบู๊กับ อาร์เซน่อล เมื่อเดือนเม.ย.1995 มันจึงชัดเจนว่าหมอนี่มีอนาคตไกล และเป็นกำลังสำคัญที่น่าจับตามองของสโมสร

ต่อประตูชัยของ คาร์วัลโญ่ ยังทำให้ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือทีมเยือนสานต่อสถิติสุดเลวร้าย แพ้ ลิเวอร์พูล เป็นเกมที่เก้าติดต่อกันแล้วกับทุกสโมสรที่เขากุมบังเหียน แถมเท่าที่ผ่านมา สถิติฟ้องว่า นิวคาสเซิ่ล เป็นทีมที่แจกแต้มเบอร์ต้นๆของยักษ์ใหญ่แห่งเมอร์ซีย์ไซด์เลยทีเดียว โดยเฉพาะนับตั้งแต่ คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียน ทีมอีสานโดน หงส์แดง ของนายใหญ่ด๊อยทช์ถล่มประตูใน พรีเมียร์ลีก มากที่สุดเหนือคู่ต่อกรรายอื่นๆถึง 109 ประตูก่อนเผชิญหน้ากันในเกมล่าสุด

4.ได้เวลา นูนเญซ (อีกครั้ง)

[Image: gettyimages-1242528627-594x594-1.jpg]

หลังโดนไล่ออกในเกมเฝ้าบ้านเสมอกับ คริสตัล พาเลซ 1-1 ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าตัวใหม่ของ ลิเวอร์พูล ชดใช้โทษแบนครบสามนัดแล้ว และพร้อมคืนสนามในเกมหน้าที่ หงส์แดง จะบุกไปเปิดศึก เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ กับ เอฟเวอร์ตัน ทีมคู่ปรับร่วมเมืองที่สนาม กูดิสัน พาร์ค

มองดูแล้วถือเป็นเกมที่ประจวบเหมาะพอดีสำหรับดาวยิงทีมชาติ อุรุกวัย ที่จะเรียกศรัทธาจากสาวก เดอะ ค็อป กลับคืนมาหลังมีอันต้องเสียค่าโง่ในเกมบู๊กับ อินทรีผงาดฟ้า เนื่องจาก ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน ยังสะกดคำว่า “ชนะ” ไม่เป็นในซีซั่นใหม่

อย่างไรก็ดี เกมปะทะกับทีมร่วมเมืองรายนี้มีความดุเด็ดเผ็ดร้อนเสมอ ฉะนั้นแล้วจึงน่าจับตามองว่าอดีตสตาร์ทีม เบนฟิก้า จะจดจำบทเรียนได้ขึ้นใจหรือเปล่าหลังเจ้าตัวประกาศยอมรับผิด พร้อมทั้งให้สัญญาว่าจะไม่มีเรื่องโง่ๆเกิดขึ้นอีกอย่างเด็ดขาด

5.อิซัก ประกาศศักดาทันควัน

[Image: gettyimages-1419684625-594x594-1.jpg]

ได้ประเดิมสนามกับ นิวคาสเซิ่ล เป็นตัวจริงทันทีสำหรับ อเล็กซานเดอร์ อิซัก กองหน้าค่าตัวแพงที่สุดของสโมสร 63 ล้านปอนด์ซึ่งได้เวิร์คเพอร์มิตก่อนเกมที่ แอนฟิลด์ เพียงไม่กี่ชั่วโมง

ด้วยสถานการณ์ที่ นิวคาสเซิ่ล ขาดตัวรุกพร้อมกันหลายราย จึงส่งผลให้ ฮาว นายใหญ่ เดอะ แม็กพายส์ ตัดสินใจส่งศูนย์หน้าผิวสีออกสตาร์ตในโผ 11 ตัวแรกแบบไม่ต้องคิดมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาต้องบุกมาต่อกรกับทีมที่เพิ่งระเบิดความโหดสอย บอร์นมัธ หงายเก๋ง 9-0 ด้วย

และในที่สุด แค่ 38 นาทีที่อยู่ในสนาม อิซัก ก็คายพิษสงให้ เดอะ ค็อป ต้องตะลึงเนื่องจากเขาสบโอกาสหนที่สองในการง้างยิง และโชว์ความนิ่งหลุดไปซัดผ่าน อลิสซง ได้อย่างเยือกเย็นพาทีมบุกมานำ 1-0

เท่านั้นไม่พอ เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 54 หัวหอกวัย 22 ปียังหลุดไปโชว์ความเหนือชั้นโยกหลอกกองหลัง ลิเวอร์พูล ก่อนซัดผ่าน อลิสซง ได้อีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่เป็นจังหวะออฟไซด์แค่เส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร อิซัก ก็เป็นดาวเตะ สวีดิช รายที่หกที่ยิงประตูได้ทันทีในเกมประเดิมสนาม พรีเมียร์ลีก โดยคนล่าสุดที่ทำได้คือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช อดีตสตาร์ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมบู๊กับ บอร์นมัธ เมื่อเดือนส.ค.2016
ตอบกลับ


ไปยังหัวข้อ:


ผู้ที่กำลังดูกระทู้นี้: 1 ผู้เยี่ยมชม