ผอ.ไถดินรื้อกรีนพัตต์กอล์ฟ คืนสนามบอลให้ร.ร. ยันใช้งบส่วนตัว เผยไม่ผิดวินัย

[bspolarbear]

ผอ.ร.ร.หนองย่างซิ้น ไถดินรื้อสนามกอล์ฟ คืนสนามบอลให้ชุมชน ยันใช้งบประมาณส่วนตัวทำ ผอ.สพป. เผยตรวจแล้วไม่ผิดวินัย ย้ำต้องไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ

กรณี นายภานุวัฒน์ ธงยศ อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านหนองย่างซิ้น ต.หนองย่างซิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม เปิดหลักสูตรพิเศษทางเลือกให้กับนักเรียน โดยเปิดสอนตีกอล์ฟ กีฬาทางเลือก พร้อมปรับสนามกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน เป็นสนามกอล์ฟ จนกลายเป็นข่าวดราม่า เนื่องจากชาวบ้านไม่พอใจ อีกทั้งยังมีลูกกอล์ฟตกเข้าบ้านของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ต่อมานายภานุวัฒน์จึงยอมยกเลิกโครงการ ยืนยันว่ามีเจตนาที่จะสร้างโอกาสให้ลูกหลานเยาวชน ก้าวสู่นักกีฬาอาชีพ เมื่อชุมชนไม่เห็นด้วย จึงต้องยกเลิก ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 13 ก.ย.65 นายภานุวัฒน์ เปิดเผยว่า เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น และผู้ปกครอง หลังหารือได้ข้อยุติยอมที่จะยกเลิกหลักสูตรทางเลือกในการตีกอล์ฟ จึงประสาน นำรถไถมาปรับพื้นที่สนามกอล์ฟที่สร้างเป็นเนินดิน กรีนกอล์ฟ คืนสภาพพื้นที่สนามฟุตบอลให้กับชุมชนไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน จะได้สบายใจทั้ง 2 ฝ่าย และสามารถใช้ประโยชน์สนามในการเล่นกีฬาประเภทต่างๆ

“ยืนยันว่าการปรับปรุงสนามตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ได้ใช้งบประมาณจากทางราชการ เป็นงบส่วนตัว รวมถึงผู้มีจิตศรัทธาช่วยปรับปรุงสนาม ยืนยันไม่กระทบการใช้งบประมาณของโรงเรียน และยินดีที่จะฟังปัญหาจากชุมชน เอาชุมชนเป็นที่ตั้ง หากโครงการไหนที่ชุมชนไม่ต้องการ ผมยินดีที่จะยกเลิก และนำมติชุมชนเป็นหลัก หากสิ่งไหนที่เกิดข้อผิดพลาดต้องอภัยพี่น้องในชุมชน รวมถึงสังคมที่ยังไม่เข้าใจเจตนา ยืนยันว่ามีเจตนาดี ไม่ได้หวังประโยชน์ส่วนตัว” นายภานุวัฒน์ กล่าว



ด้านนายอภิชัย ทำมาน ผู้อำนายการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เขต 1 เปิดเผยว่า หลังรับรายงานข้อมูลตามระเบียบสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนรายงานข้อเท็จจริง พบว่าเป็นโครงการนำร่องที่เป็นหลักสูตรทางเลือก ไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการ



พร้อมให้ทางโรงเรียนหารือกับชาวบ้านในพื้นที่ และเร่งแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และให้นำมติชุมชนเป็นหลัก หากชุมชนไม่ต้องการจะต้องยกเลิก และดำเนินการตามแนวทางชุมชน ส่งเสริมกิจกรรมด้านอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์แก่เยาวชนลูกหลานต่อไป

ส่วนการดำเนินการทางวินัยหรือเอาผิด ถือว่าผู้อำนวยการไม่ได้กระทำผิดทางวินัย เพียงเป็นการเปิดโครงการหลักสูตรทางเลือก เมื่อชุมชนไม่ต้องการจึงสั่งการให้ยกเลิก และให้ตรวจสอบรายงานข้อเท็จจริงมายังต้นสังกัดตามระเบียบ และเน้นย้ำไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก

ขณะที่ นางลัดดาวัลย์ บางศิริ อายุ 66 ปี ชาว ต.หนองย่างซิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบบ้านเรือนติดโรงเรียน เปิดเผยว่า หลังมีข้อสรุปการแก้ไขปัญหารู้สึกสบายใจนอนหลับ และขอขอบคุณทางผู้อำนวยการโรงเรียน ที่เข้าใจรับทราบปัญหาชุมชน ไม่ได้ติดใจอะไร

เพียงเกิดปัญหาแล้วเอาใจใส่ดูแลแก้ไข ชาวบ้านจะได้สบายใจ ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายจากลูกกอล์ฟอีกต่อไป และลูกหลาน จะได้ใช้สนามกีฬาตามปกติ เพราะตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา เห็นลูกหลานมีความสุขกับการเล่นกีฬาฟุตบอล แต่พอมาทำสนามกอล์ฟ ทำให้ไม่สามารถเล่นกีฬาได้ตามปกติ แต่เพื่อผู้อำนวยการโรงเรียนยอมคืนสนาม เชื่อว่าลูกหลานเยาวชน จะได้สบายใจด้วย